มีผู้คนเป็นจำนวนนับล้านอยู่ในโลกแห่งธุรกิจเครือข่าย และอีกหลายล้านคนที่ก้าวเข้ามาในธุรกิจในทุก ๆ ปี สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนใหม่ๆ คือการ “เข้าใจ” ในธุรกิจ
“ธุรกิจเครือข่าย” เป็นหนึ่งในระบบเคลื่อนสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุด และถูกเข้าใจผิดมากที่สุดในปัจจุบัน เหตุผลอันดับหนึ่งที่ทำให้คนไม่ทำธุรกิจเครือข่ายคือเขา “ไม่เข้าใจในธุรกิจ อย่างแท้จริง”
ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing หรือ MLM
Marketing หมายถึง การเคลื่อนสินค้าหรือบริการ จากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค Multi-Level อ้างถึง ระบบในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคลผู้ซึ่งทำให้สินค้าหรือบริการนั้นเคลื่อนตัว Multi หมายถึง มากกว่าหนึ่ง Level หมายถึง ระดับหรือรุ่น คำว่า MLM นั้นแพร่หลายมากเสียจนพวกพีระมิดที่ผิดกฎหมาย และพวกลูกโซ่ต่างๆ ได้พยายามทำตัวเองให้เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างภาพลบอย่างร้ายกาจและไร้เหตุผลให้กับบริษัทธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ จนกระทั่งเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ให้กับแผนการตลาดของเขา เป็น Uni-Level Marketing, Network Marketing หรือ Co-op Mass Marketing และอื่นๆ
การเข้าร่วมธุรกิจคือ คุณจะซื้อสินค้าในราคาขายส่ง ( คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองด้วย ) หลายคนเข้าร่วมธุรกิจเพราะเหตุผลข้อนี้ หลังจากนั้นคุณก็จะเริ่ม “เอาจริง” เมื่อคุณซื้อสินค้าในราคา“ขายส่ง” ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถ“ขายปลีก” และคุณจะได้ “ผลกำไร” คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า คุณ “ต้อง” ขายปลีก คุณจึงประสบความสำเร็จ บางบริษัทถึงกับกำหนดยอดขายให้สมาชิกทำยอดตามเป้าเพื่อเขาจะได้รับผลตอบแทน คุณสามารถขายถ้าคุณต้องการ หรือ ถ้าคุณจำเป็นต้องขายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนก็ขายไปเถิดครับ แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาลแล้วหละก็ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้น มาจาก “การสร้างองค์กร”
ประเด็นสำคัญ: ให้การขายเป็นสิ่งที่ตามมาจากการสร้างองค์กรโดยธรรมชาติ คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะเขาทำสิ่งที่กลับกัน คือ เขาพยายามสร้างองค์กรโดยการขาย
คำว่า “ขาย” เป็นความคิดทางลบในจิตใจคนถึง 95% ในธุรกิจเครือข่ายคุณไม่จำเป็นต้อง “ขาย” ตามความเข้าใจของโลก แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน
บริษัทธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียเงินปริมาณมหาศาลไปกับการโฆษณา เพราะสุดยอดแห่งการโฆษณาก็คือการบอกแบบปากต่อปากของสมาชิก ดังนั้น บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่วๆ ไป ดังนั้น คุณภาพสินค้าจึงมักดีกว่าสินค้าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันที่พบตามร้านค้าปลีก คุณจึงเพียงแค่แบ่งปันสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าสินค้ายี่ห้ออื่นๆ ในหมวดเดียวกัน ให้เขาเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อใหม่ ซึ่งคุณได้ทดสอบด้วยตัวคุณเองแล้วว่า มันดีกว่า
คุณคงเห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่การเดินไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขายสินค้าให้กับคนแปลกหน้า ธุรกิจเครือข่ายที่ผมรู้จัก สอนว่า การที่คุณแบ่งปันคุณภาพสินค้าและบริการให้กับเพื่อนของคุณ ทั้งหมดนี้แหละที่ “การขาย” เข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆควรใช้คำว่า “การแบ่งปัน” มากกว่า “การขาย” เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรงและคุณตัดสินใจที่จะลาออกเพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณสามารถย้ายไปในท้องที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้แล้วในท้องที่เดิมการทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่แค่การขาย ข้าพเจ้ายังขอยืนยังอีกครั้ง คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ แต่คุณสามารถสร้าง “ความมั่งคั่งอย่างถาวร” ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น
บทสรุป เครือข่ายผู้บริโภค เป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสินค้าได้มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก เพียงเริ่มต้นจากการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เราเป็นหุ้นส่วนด้วย การแนะนำเพียงแค่ 2-3 คนนั้นมีพลังสามารถสร้างเครือข่ายได้นับหมื่นนับแสน ซึ่งเราเรียกว่า”การสร้างองค์กรผู้บริโภค” ไม่ใช่การขายแต่อย่างใด และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำกับนักธุรกิจ โดยคาดไม่ถึงเลยทีเดียว โดยการใช้หลักของ “กฏทวีคูณ”
คงพอจะเข้าใจความหมายของการทำธุรกิจเครือข่ายแล้วนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจก็ลองอ่านทบทวนอีกสักรอบ