ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดของน้ำมันรำข้าว และจมูกข้าว ไวทอลสตาร์ ครับ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผมและคนรู้จักหลาย ๆ ท่านได้มีโอกาสใช้และประทับใจในผลิตภัณฑ์มาก ๆ ผมได้สรุปความรู้มาจากที่ได้เรียนรู้และศึกษาตัวผลิตภัณฑ์ทั้งจากเซ็นเตอร์และคู่มือ นิตยสารต่าง ๆ ครับ สำหรับน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวนั้น เราสกัดได้จากส่วนที่เรียกว่าจมูกข้าว และเยื่อหุ้มจมูกข้าว ดังรูปครับ
มาตรฐานการผลิต GMP (Good Manufacturing Practice)
มาตรฐานระบบการผลิตอาหารปลอดภัย HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point)
รวมไปถึงมาตรฐานอาหารฮาลาล (HALAL) และ โคเชอร์ (Kosher)
ดังนั้นผู้บริโภคจึงไว้ใจและวางใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ไวทอลสตาร์ ทุกขวด จะได้มาตรฐานและได้คุณภาพสูงสุดเหมือนกัน
รายงานผลการตรวจสอบสารตกค้าง Hexane ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ไวทอลสตาร์ (Vital Star) ผลคือ ไม่พบสารตกค้าง Hexane ในผลิตภัณฑ์เลย
รู้จักโรคเสื่อม
โรคเสื่อมคือโรคหรือภาวะความผิดปกติของร่างกายที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ซึ่งจากสถิติพบว่า โรคที่เกิดจากการติดเชื้อนั่นมีเพียง 10% ของอัตราการเกิดโรคทั้งหมด และอีก 90% ล้วนเป็นโรคเสื่อม
3 อันดับแรกของโรคร้ายที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยล้วนเป็นโรคเสื่อมทั้งสิน
โดยรวมจำนวนการเกิดทั้ง 3 โรค คิดเป็นมากกว่า 80% ของประชากรทั้งหมดที่เสียชีวิตได้แก่
1. โรคมะเร็ง
2. โรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดในสมอง
3. โรคหัวใจ
นอกจาก 3 โรคนี้แล้วยังมีโรคเสื่อมที่คอยคุกคามสุขภาพอีกมากมายเช่น
โรคภูมิแพ้ โรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ โรคไซนัส โรคตับ-ไต โรคหอบหืด โรคกระเพาะโรคโลหิตจาง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเครียด โรคนอนไม่หลับ โรคริดสีดวงทวาร โรคกระดูกเสื่อม โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคความจำเสื่อม โรคเบาหวาน สิวอักเสบ ฝ้า กระ ปวดประจำเดือน ฯลฯ
โรคชุดคืออะไร
โรคชุดคือภาวะของการเกิดโรคที่มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันของระบบ ที่เราเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าผู้ป่วยที่มีอาการของภาวะหลอดเลือดตีบอุดตันจากไขมัน หัวใจก็จะทำงานหนักก็จะภาวะของโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เมื่อรับประทานยาก็จะไปสะสมที่ตับ ทำให้เกิดโรคตับ โรคเบาหวาน และเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ อีกมากมายนั่นเอง
เรามาดูส่วนประกอบที่สำคัญ และ คุณสมบัติของสารต่าง ๆ ที่มีในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ไวทอลสตาร์
1.กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
โดยทั่วไป แนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อการดูแลสุขภาพ
2.กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
"กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมันในเลือด โดยลดแอลดีแอล-คลอเลสเตอรอล (LDL-C, Low Density Lipoprotein-Cholesterol) ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยเพิ่ม เอชดีแอล-คลอเลสเตอรอล (HDL-C, High Density Lipoprotein- Cholesterol) ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลที่ดี จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด"
3.แกมมา ออไรซานอล (Gamma-Orizanol)
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการด้วยกัน คือ
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
- ช่วยลดอาการผิดปกติต่างๆของสตรีวัยทอง
- มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระและป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ท
- ช่วยทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น
- ช่วยลดอาการอักเสบต่างๆได้
4.เซราไมด์ (Ceramide)
เป็นองค์ประกอบของไขมันในชั้นผิวหนัง (Sphingolipid) ซึ่งมีความสำคัญในการปกป้องผนังเซลล์ในการถูกทำลาย มีความสามารถในการเก็บกักน้ำได้ดี ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้น
5.ฟอสฟอไลปิด , เลซิติน (Phospholipids, Lecithin)"
เป็นโครงสร้างของเยื่อหุ้มต่างๆของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยื่อหุ้มเซลล์สมองและประสาท ทำให้การสื่อกระแสประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมด้านความจำ และช่วยลดอาการเครียดได้อีกด้วย
6.โทคอลกรุ๊บ ,วิตามิน อี (Tocols Group ,Vitamin E)"
ประกอบด้วย วิตามิน อี (Vitamin E หรือ Tocophenol) โทโคฟีนอล (Tocophenol) โทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีหน้าที่ในการเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และป้องกันการแก่ก่อนวัย 
สรรพคุณ คุณประโยชน์ที่ได้รับในการบริโภคน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ไวทอลสตาร์ แกมมาออไรซานอล / กรดเฟรูลิค / กรดไขมันโอเมก้า 3
1. ลดระดับไขมันในเลือด ลดระดับคลอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์, ลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต และหลอดเลือดอุดตัน
2. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
แกมมาออไรซานอล / กรดเฟรูลิค / โทคอลกรุ๊บ (โทโคไตรอีนอล วิตามิน อี)
3. ลดการอักเสบ
4. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
5. ป้องกันการเกิดมะเร็ง และการกระจายตัวของมะเร็ง
6. ป้องกันการแก่ก่อนวัย (Anti-Aging)
แกมมาออไรซานอล / กรดเฟรูลิค / ออไรซา เซราไมด์
7. คงความชุ่มชื้นของผิว
8. ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ เต่งตึง
แกมมาออไรซานอล / กรดเฟรูลิค
9. ป้องกันผิวถูกทำลายจากแสงแดด (รังสียูวี อุลตร้าไวโอเล็ต)
10. ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว ฝ้า (จากแดดและฮอร์โมน) กระ จะค่อยๆจางลง
11. เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
12. เพิ่มการสร้างฮอร์โมนเกี่ยวกับไทรอยด์ เนื่องจากฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวกับไทรอยด์
13. เพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อ
14. ลดการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ และอาการอ่อนเพลีย
15. เพิ่มการเผาพลาญไขมันในร่างกาย
16. เพิ่มการเผาพลาญน้ำตาลในเลือด
17. ลดการสูญเสียแคลเซียมในปัสสาวะ จึงลดอัตราการดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้
18. ปรับฮอร์โมนในภาวะวัยทอง และลดอาการปวดก่อนมีประจำเดือนได้
(วัยทองทำให้เกิดการเสื่อมต่างๆทางร่างกายที่เห็นได้ชัด เช่น ผิวแห้ง กระดูกพรุน ผิวหนังเหี่ยว)
แกมมาออไรซานอล / กรดเฟรูลิค / ฟอสฟอไรปิด (เลซิติน)
19. ช่วยเกี่ยวกับความจำ
20. สำคัญต่อการสร้างผนังเซลล์ประสาทของสมอง
21. ปกป้องเซลล์ประสาทจากพิษและอนุมูลอิสระ
22. ช่วยเสริมสร้างด้านความทรงจำ
23. ช่วยลดอาการเครียด / เพิ่มการหลั่งเอนโดฟิน(Endorphin) ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย และรู้สึกสดชื่น
ขนาดและวิธีรับประทาน
เพื่อป้องกัน รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด เช้า เย็น
เพื่อฟื้นฟูและเยียวยา ขึ้นอยู่กับอาการ และความรุนแรง โดยรับประทานครั้งละ 2-3 เม็ดเช้า เย็น หรือ ในรายที่มีอาการรุนแรง (เช่นมะเร็ง) อาจเพิ่มเป็น 3-4 เม็ด เช้า เที่ยง เย็น (อ้างอิงจากกรณีศึกษาต่าง ๆ)
